เที่ยวญี่ปุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด : ชม Chureito Pagoda และทะเลสาบ Kawaguchiko (1)

นักเขียนป้ายแดง by Jickamint (เนื้อหาทั้งหมดเขียนและเรียบเรียงเองทั้งสิ้น)

อย่างที่สัญญาไว้ในตอนที่แล้วว่าจะพาไปเที่ยวชมฟูจิซังแต่ก่อนอื่นขอพาไปรู้จักรถไฟสาย Yamanote (สายสีเขียว)ที่วิ่งเฉพาะในโตเกียวกันก่อน รถไฟสายนี้จะวิ่งวนเป็นวงกลมรอบกรุงโตเกียวโดยจะมีรถออกจากสถานีทุกๆ 3-5 นาที หน้าตาแผนที่เป็นแบบนี้ค่ะโดยรถจะวิ่งทั้งวนซ้ายและวนขวา จงขึ้นให้ถูกชานชาลา ถ้าหากไม่แน่ใจก็สามารถถามเจ้าหน้าที่และนายสถานีได้

เมื่อศึกษาจนเข้าใจก็ไม่ต้องกลัวว่าโรงแรมของเราจะตั้งอยู่บริเวณไหนในกรุงโตเกียว ขอแค่ขึ้นรถไฟสายสีเขียวนี้ให้เป็นก็สามารถท่องไปในแหล่งท่องเที่ยวดังๆได้ทั่วโตเกียว หรือจะเลือกเดินทางกับสายอื่นๆก็ได้โดยรูปแบบรถไฟที่ให้บริการก็จะต่างกันออกไปแต่ไม่ต้องกังวลค่ะเพราะถ้าหากมี JR Kanto Pass ในมือ สามารถขึ้นทุกสายได้ไม่จำกัด!!!


เป้าหมายปลายทางของเราในวันนี้คือสถานี Kawaguchiko เพื่อไปชมฟูจิซัง จากแผนที่ใหญ่ของ JR East Line จะเห็นว่าไม่มีสถานีย่อยๆเท่าภาพแรก ฉะนั้นการเดินทางออกจากพื้นที่โซนสีเขียว(ในโตเกียว)นั้นต้องหาทางไปตั้งต้นบริเวณสถานีที่ปรากฎใน JR East Line ให้ได้

ขั้นแรก
ขึ้น Yamanote สายสีเขียวจากสถานี Shin-Okubo 
>> ลงสถานี Shinjuku (ซึ่งมีปรากฎในแผนที่ใหญ่ของ JR East Line) 

และเมื่อมาตั้งต้นที่สถานีใหญ่ได้แล้ว ต่อไปเป็นวิธีการเดินทางไปชมฟูจิซัง ณ Kawaguchiko
>> ที่สถานี Shinjuku เปลี่ยนขึ้นรถไฟ AZUZA **Reservation 
>> ลงสถานี Otsuki เปลี่ยนขึ้นรถไฟสายเอกชน Fujikyo **No Reservation 
>> ลงสถานี Shimoyoshida (ชมChureito Pagoda) และปิดท้ายด้วยสถานี Kawaguchiko


**Reservation คือ ??
รถไฟบางสายบางขบวนต้องทำการ "reserve" หรือ"จองที่นั่ง"ก่อนขึ้นค่ะ ถามว่าจำเป็นต้องจองเสมอมั้ย? ตอบเลยว่าไม่แต่ Highly Recommended ค่ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ JR East Center อธิบายไว้ว่ารถไฟมักมีคนใช้บริการเยอะทางที่ดีควรจองที่นั่งให้เรียบร้อย โดยเฉพาะในช่วงเช้าเข้างานและช่วงเย็นเลิกงานเนื่องจากมีคนใช้บริการเยอะบางครั้งถึงกับต้องบังคับจองกันเลยทีเดียว


แต่ในเมื่อในมือมี JR Pass แล้วขี้เกียจจองหรือจองไม่ทันก็สามารถใช้บริการได้แต่ต้องขึ้นเฉพาะตู้โดยสารสำหรับผู้ไม่ได้ทำการจอง ต้องสังเกตจากป้าย No Reservation ตามตู้ขบวนเอาได้ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณตู้ที่ 7 ถ้าหากไม่แน่ใจ แน่นอนว่าสามารถถามเจ้าหน้าที่ได้ (ซึ่งเรามั่นใจว่าเจ้าหน้าที่คงแนะนำให้ไปจองที่นั่งเสีย) และเมื่อทำการจองแล้วทางสถานีจะออกบัตรหน้าตาแบบด้านบนให้เรา

เดินตามหาป้ายลักษณะแบบนี้ (พวก Reservation / Information / JR)
วิธีการจองก็แสนง่ายดายเพิ่งแค่เดินไปที่จุดบริการที่ขึ้นป้ายไว้ว่า Reservation (เจอเคาน์เตอร์ไหนที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ เดินเข้าไปเลยค่ะ) ยื่น JR Pass ให้เขาพร้อมพูดเป็นภาษาประกิตอย่างคล่องแคล่วว่า I want to make a reservation for ... อะไรก็ว่าไป เจ้าหน้าที่ก็จะถามจำนวนผู้ร่วมเดินทางของเราและออกตั๋วพร้อมเลขที่นั่งบนรถไฟขบวนนั้นๆให้กับเรา "ง่ายนิดเดียว"

           อย่าพึ่งตกใจไป ถ้าหากยังนึกภาพไม่ออกตามมาดูภาพสวยๆพร้อมคำอธิบายกันนะคะ

ตื่นแต่เช้าออกจากโรงแรมตั้งแต่ 6 โมงเช้าตรงไปที่สถานี Shin-Okubo ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงแรมจับรถไฟสาย Yamanote สีเขียวไปชินจุกุกันโดยจาก Shin-Okubo ไป Shinjuku นั้นใช้เวลาเดินทางเพียงสถานีเดียวเท่านั้น ฉะนั้นจงสอบถามข้อมูลหรืออ่านป้ายต่างๆให้ละเอียดรอบคอบเพราะถ้าเผลอขึ้นผิดชานชาลาวนไปอีกทาง แทนที่จะไปแค่สถานีเดียวอาจลงเอยด้วยการนั่งรถไฟอ้อมโลกได้


รถสายนี้ทั้งวนซ้ายและวนขวา จงขึ้นให้ถูกชานชาลา
ป้ายระบุทั้งชื่อสถานีและเวลาเดินทาง
ยืนตากลมอยู่ไม่นานก็มีรถไฟสีขาวคาดสายสีเขียวเทียบท่าชานชาลา(Track1)รีบเบียดตัวเข้าไปอย่างไม่รอช้า ระหว่างอยู่บนรถไฟในฐานะชาวต่างชาติอย่าลืมสังเกตหน้าจอแสดงชื่อสถานีอยู่เรื่อยๆด้วย ซึ่งบนจอจะแสดง "เวลาที่ใช้เดินทาง" กับ "ชื่อสถานี" เช่น Sinjuku 3 หมายความว่าสถานีชินจุกุจะถึงในอีกสามนาที ... ลองจับเวลาตามปรากฎว่า เป๊ะ!!! ใช้เวลาพอดีกับที่หน้าจอ ขอชาบูระบบขนส่งมวลชนของญี่ปุ่น ชาบูๆๆ



พอถึงสถานีรถไฟชินจุกุให้เดินลงจากชานชาลา(สามารถทำได้กับทุกสถานี ถ้าคิดอะไรไม่ออกให้เดินลงชั้นล่าง ยืนป้ายแล้วตั้งต้นใหม่) ซึ่งด้านในสถานีชั้นล่างก็วุ่นวายคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ยิ่งออกเดินทางในช่วงเช้าพบคนญี่ปุ่นในสูทดำเดินกันให้ทั่ว ป้ายสองข้างในอาคารจะมีตัวเลขชานชาลาตัวใหญ่ติดไว้อย่างชัดเจน ตั้งสติค่อยๆหาชานชาลาที่ต้องการแล้วเดินขึ้นบันไดไป


ทางที่ดีก็ถามจากนายสถานีก่อนว่าต้องขึ้นรถสายอาซูซะที่ชานชาลาไหนและให้ดีที่สุดควรเช็คชานชาลาจากเว็บ hyperdia(วิธีใช้hyperdiaคร่าวๆ) ขบวนอาซูซะในวันนั้นต้องไปขึ้นที่ชานชาลา 10ค่ะ


ยืนรอรถไฟท่ามกลางอากาศหนาวเย็นไม่นานรถไฟสีสวยก็เทียบท่า ก้าวขึ้นรถไม่รอช้าจับจองที่นั่งหยิบชุดข้าวปั้นอาหารเช้าที่แวะซื้อในสถานี ซูซิกล่องนี้ระบุราคาไว้สองจุด 333เยนคือราคาข้าวส่วน 360เยนคือราคาหลังรวมภาษีแล้วเป็นราคาจริงที่ต้องจ่าย อาหาร360เยนหรือประมาณ180บาทมื้อนี้ประกอบไปด้วยข้าวปั้นห่อสาหร่ายไส้ไข่หวาน ซูซิหน้าไข่หวานและข้าวยัดไส้เต้าหู้ทอดซึ่งขอบอกว่า อร่อยมาก!!!!


นั่งเคี้ยวซูซิจิบชาเขียวร้อนให้คล่องคอสักประมาณครึ่งชั่วโมง รถไฟ Limited Express ASUZA หรือรถไฟขบวนพิเศษอาซูซะ ก็นำเรามาถึงสถานี Ostuki ยังไม่ทันตั้งตัวนายสถานีประกาศ รถไฟสาย Fujikyu กำลังจะออกแล้วให้ขึ้นรถด่วน!!! หลังจากโชว์ JR Pass กับเจ้าหน้าที่ก็รีบวิ่งขึ้นบันไดไป


Fujikyu นี้เป็นรถไฟสายเอกชนซึ่งโดยปกติไม่รวมอยู่ใน JR East Line แต่เนื่องจากเป็นรถไฟสายท่องเที่ยวชื่อดังเมื่อไม่นานมานี้จึงพึ่งมีการประกาศให้รวมอยู่ในขอบเขตการใช้ของ Pass ด้วยถ้าสังเกตในแผนที่ รถไฟสายนี้จะถูกจัดใน Non-JR แต่อย่างไรก็ดีเท่ากับว่าถ้าหากใครที่ถือ JR Pass สามารถขึ้นรถไฟสายนี้ได้ ฟรี!!จนสุดสาย(ไม่รวมรถบัสจากสถานี)


ส่วนนี้คือภาพภายในรถไฟสะอาดสะอ้านน่าดู ติดตั้งฮีตเตอร์ตัวใหญ่ไว้ใต้เบาะอบอุ่นโดยสารสบาย และอีกภาพคือภาพรถไฟอีกขบวนค่ะ เป็นสาย Fujikyu เหมือนกันแต่แค่คนละสี สรุปคือการนั่งรถไฟจากสถานี Ostuki ต้องขึ้นรถที่มีป้าย Fujikyu ไม่ว่าจะขบวนสีอะไรก็ตามแต่อย่าเผลอขึ้นขบวนที่มีรูปตัวการ์ตูนภูเขาไฟฟูจิ(เก็บอธิบายตอนหน้า)เพราะจะวิ่งไปยังปลายทางคนละสาย

นั่งหัวขบวนใกล้ชิดพี่คนขับ
สองวันก่อนไปเยือนฟูจิหิมะพึ่งตกไปหมาดๆจึงพบรอยอารยธรรมหิมะสองข้างทาง วิวสวยมาก!!!!!! ได้ชมบรรยากาศชนบท เมืองเล็กๆสองข้างทางเหมือนกำลังไปเที่ยวบ้านโนบิตะ บ้านเรือนถอดมาจากการ์ตูนเรื่องโดเรม่อน เป๊ะ!! นั่งชมวิวดูหิมะเพลินตา ไม่นานก็เจ้าหน้าที่ก็เดินมาตรวจตั๋วและเช่นเคยเพียงแค่โชว์ JR Kanto Pass เท่านั้นไม่ต้องจ่ายตังเพิ่มแต่อย่างใด

... สักพักคุณป้าชาวญี่ปุ่นใจดีที่นั่งข้างๆก็สะกิดๆชี้ออกไปนอกหน้าต่าง ...


ตื่นเต้นมาก หัวใจเต้นตุ๊บๆ ฟูจิซังหรือภูเขาไฟฟูจิของจริงแม้มองในระยะไกลจากบนรถไฟยังสวยสุดๆแบบนี้ ไม่อยากจะคิดถึงตอนไปถึงจุดชมวิวที่เจดีย์แดงกับที่ทะเลสาบคาวากูจิโกะเลยว่าจะสวยแค่ไหน ตอนต่อไปเรามาต่อกันเรื่องการเดินทางไปจุดชมวิวในตำนานที่เจดีย์แดงหรือ Chureito Pagoda และที่ทะเลสาบ Kawaguchiko กันนะคะ
                                                                                                                                                              
ใครยังไม่อ่าน  !!เชยมาก!!

ซื้อ JR Pass และนั่ง N'EX จากนาริตะเข้าโตเกียว คลิ๊กจร้า
Suica Card และ Korean Town ในย่านชินโอคุโบ คลิ๊กจร้า
ชม Chureito Pagoda และทะเลสาบ Kawaguchiko (1) คลิ๊กจร้า
ชม Chureito Pagoda และทะเลสาบ Kawaguchiko (2) คลิ๊กจร้า
ชมวิวทะเลสาบ Kawaguchiko และตามหาร้านอร่อย คลิ๊กจร้า
บุฟเฟต์ขาปูยักษ์ ณ Tokyo Station Buffet คลิ๊กจร้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น