อย่างที่สัญญาไว้ในตอนที่แล้วว่าจะพาไปเที่ยวชมฟูจิซังแต่ก่อนอื่นขอพาไปรู้จักรถไฟสาย Yamanote (สายสีเขียว)ที่วิ่งเฉพาะในโตเกียวกันก่อน รถไฟสายนี้จะวิ่งวนเป็นวงกลมรอบกรุงโตเกียวโดยจะมีรถออกจากสถานีทุกๆ 3-5 นาที หน้าตาแผนที่เป็นแบบนี้ค่ะโดยรถจะวิ่งทั้งวนซ้ายและวนขวา จงขึ้นให้ถูกชานชาลา ถ้าหากไม่แน่ใจก็สามารถถามเจ้าหน้าที่และนายสถานีได้
เมื่อศึกษาจนเข้าใจก็ไม่ต้องกลัวว่าโรงแรมของเราจะตั้งอยู่บริเวณไหนในกรุงโตเกียว ขอแค่ขึ้นรถไฟสายสีเขียวนี้ให้เป็นก็สามารถท่องไปในแหล่งท่องเที่ยวดังๆได้ทั่วโตเกียว หรือจะเลือกเดินทางกับสายอื่นๆก็ได้โดยรูปแบบรถไฟที่ให้บริการก็จะต่างกันออกไปแต่ไม่ต้องกังวลค่ะเพราะถ้าหากมี JR Kanto Pass ในมือ สามารถขึ้นทุกสายได้ไม่จำกัด!!!
เป้าหมายปลายทางของเราในวันนี้คือสถานี Kawaguchiko เพื่อไปชมฟูจิซัง จากแผนที่ใหญ่ของ JR East Line จะเห็นว่าไม่มีสถานีย่อยๆเท่าภาพแรก ฉะนั้นการเดินทางออกจากพื้นที่โซนสีเขียว(ในโตเกียว)นั้นต้องหาทางไปตั้งต้นบริเวณสถานีที่ปรากฎใน JR East Line ให้ได้
ขั้นแรก
ขึ้น Yamanote สายสีเขียวจากสถานี Shin-Okubo
>> ลงสถานี Shinjuku (ซึ่งมีปรากฎในแผนที่ใหญ่ของ JR East Line)
และเมื่อมาตั้งต้นที่สถานีใหญ่ได้แล้ว ต่อไปเป็นวิธีการเดินทางไปชมฟูจิซัง ณ Kawaguchiko
>> ที่สถานี Shinjuku เปลี่ยนขึ้นรถไฟ AZUZA **Reservation
>> ลงสถานี Otsuki เปลี่ยนขึ้นรถไฟสายเอกชน Fujikyo **No Reservation
>> ลงสถานี Shimoyoshida (ชมChureito Pagoda) และปิดท้ายด้วยสถานี Kawaguchiko
**Reservation คือ ??
รถไฟบางสายบางขบวนต้องทำการ "reserve" หรือ"จองที่นั่ง"ก่อนขึ้นค่ะ ถามว่าจำเป็นต้องจองเสมอมั้ย? ตอบเลยว่าไม่แต่ Highly Recommended ค่ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ JR East Center อธิบายไว้ว่ารถไฟมักมีคนใช้บริการเยอะทางที่ดีควรจองที่นั่งให้เรียบร้อย โดยเฉพาะในช่วงเช้าเข้างานและช่วงเย็นเลิกงานเนื่องจากมีคนใช้บริการเยอะบางครั้งถึงกับต้องบังคับจองกันเลยทีเดียว
แต่ในเมื่อในมือมี JR Pass แล้วขี้เกียจจองหรือจองไม่ทันก็สามารถใช้บริการได้แต่ต้องขึ้นเฉพาะตู้โดยสารสำหรับผู้ไม่ได้ทำการจอง ต้องสังเกตจากป้าย No Reservation ตามตู้ขบวนเอาได้ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณตู้ที่ 7 ถ้าหากไม่แน่ใจ แน่นอนว่าสามารถถามเจ้าหน้าที่ได้ (ซึ่งเรามั่นใจว่าเจ้าหน้าที่คงแนะนำให้ไปจองที่นั่งเสีย) และเมื่อทำการจองแล้วทางสถานีจะออกบัตรหน้าตาแบบด้านบนให้เรา
เดินตามหาป้ายลักษณะแบบนี้ (พวก Reservation / Information / JR) |
อย่าพึ่งตกใจไป ถ้าหากยังนึกภาพไม่ออกตามมาดูภาพสวยๆพร้อมคำอธิบายกันนะคะ
ตื่นแต่เช้าออกจากโรงแรมตั้งแต่ 6 โมงเช้าตรงไปที่สถานี Shin-Okubo ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงแรมจับรถไฟสาย Yamanote สีเขียวไปชินจุกุกันโดยจาก Shin-Okubo ไป Shinjuku นั้นใช้เวลาเดินทางเพียงสถานีเดียวเท่านั้น ฉะนั้นจงสอบถามข้อมูลหรืออ่านป้ายต่างๆให้ละเอียดรอบคอบเพราะถ้าเผลอขึ้นผิดชานชาลาวนไปอีกทาง แทนที่จะไปแค่สถานีเดียวอาจลงเอยด้วยการนั่งรถไฟอ้อมโลกได้
รถสายนี้ทั้งวนซ้ายและวนขวา จงขึ้นให้ถูกชานชาลา ป้ายระบุทั้งชื่อสถานีและเวลาเดินทาง |
พอถึงสถานีรถไฟชินจุกุให้เดินลงจากชานชาลา(สามารถทำได้กับทุกสถานี ถ้าคิดอะไรไม่ออกให้เดินลงชั้นล่าง ยืนป้ายแล้วตั้งต้นใหม่) ซึ่งด้านในสถานีชั้นล่างก็วุ่นวายคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ยิ่งออกเดินทางในช่วงเช้าพบคนญี่ปุ่นในสูทดำเดินกันให้ทั่ว ป้ายสองข้างในอาคารจะมีตัวเลขชานชาลาตัวใหญ่ติดไว้อย่างชัดเจน ตั้งสติค่อยๆหาชานชาลาที่ต้องการแล้วเดินขึ้นบันไดไป
ทางที่ดีก็ถามจากนายสถานีก่อนว่าต้องขึ้นรถสายอาซูซะที่ชานชาลาไหนและให้ดีที่สุดควรเช็คชานชาลาจากเว็บ hyperdia(วิธีใช้hyperdiaคร่าวๆ) ขบวนอาซูซะในวันนั้นต้องไปขึ้นที่ชานชาลา 10ค่ะ
ยืนรอรถไฟท่ามกลางอากาศหนาวเย็นไม่นานรถไฟสีสวยก็เทียบท่า ก้าวขึ้นรถไม่รอช้าจับจองที่นั่งหยิบชุดข้าวปั้นอาหารเช้าที่แวะซื้อในสถานี ซูซิกล่องนี้ระบุราคาไว้สองจุด 333เยนคือราคาข้าวส่วน 360เยนคือราคาหลังรวมภาษีแล้วเป็นราคาจริงที่ต้องจ่าย อาหาร360เยนหรือประมาณ180บาทมื้อนี้ประกอบไปด้วยข้าวปั้นห่อสาหร่ายไส้ไข่หวาน ซูซิหน้าไข่หวานและข้าวยัดไส้เต้าหู้ทอดซึ่งขอบอกว่า อร่อยมาก!!!!
นั่งเคี้ยวซูซิจิบชาเขียวร้อนให้คล่องคอสักประมาณครึ่งชั่วโมง รถไฟ Limited Express ASUZA หรือรถไฟขบวนพิเศษอาซูซะ ก็นำเรามาถึงสถานี Ostuki ยังไม่ทันตั้งตัวนายสถานีประกาศ รถไฟสาย Fujikyu กำลังจะออกแล้วให้ขึ้นรถด่วน!!! หลังจากโชว์ JR Pass กับเจ้าหน้าที่ก็รีบวิ่งขึ้นบันไดไป
Fujikyu นี้เป็นรถไฟสายเอกชนซึ่งโดยปกติไม่รวมอยู่ใน JR East Line แต่เนื่องจากเป็นรถไฟสายท่องเที่ยวชื่อดังเมื่อไม่นานมานี้จึงพึ่งมีการประกาศให้รวมอยู่ในขอบเขตการใช้ของ Pass ด้วยถ้าสังเกตในแผนที่ รถไฟสายนี้จะถูกจัดใน Non-JR แต่อย่างไรก็ดีเท่ากับว่าถ้าหากใครที่ถือ JR Pass สามารถขึ้นรถไฟสายนี้ได้ ฟรี!!จนสุดสาย(ไม่รวมรถบัสจากสถานี)
ส่วนนี้คือภาพภายในรถไฟสะอาดสะอ้านน่าดู ติดตั้งฮีตเตอร์ตัวใหญ่ไว้ใต้เบาะอบอุ่นโดยสารสบาย และอีกภาพคือภาพรถไฟอีกขบวนค่ะ เป็นสาย Fujikyu เหมือนกันแต่แค่คนละสี สรุปคือการนั่งรถไฟจากสถานี Ostuki ต้องขึ้นรถที่มีป้าย Fujikyu ไม่ว่าจะขบวนสีอะไรก็ตามแต่อย่าเผลอขึ้นขบวนที่มีรูปตัวการ์ตูนภูเขาไฟฟูจิ(เก็บอธิบายตอนหน้า)เพราะจะวิ่งไปยังปลายทางคนละสาย
นั่งหัวขบวนใกล้ชิดพี่คนขับ |
... สักพักคุณป้าชาวญี่ปุ่นใจดีที่นั่งข้างๆก็สะกิดๆชี้ออกไปนอกหน้าต่าง ...
ตื่นเต้นมาก หัวใจเต้นตุ๊บๆ ฟูจิซังหรือภูเขาไฟฟูจิของจริงแม้มองในระยะไกลจากบนรถไฟยังสวยสุดๆแบบนี้ ไม่อยากจะคิดถึงตอนไปถึงจุดชมวิวที่เจดีย์แดงกับที่ทะเลสาบคาวากูจิโกะเลยว่าจะสวยแค่ไหน ตอนต่อไปเรามาต่อกันเรื่องการเดินทางไปจุดชมวิวในตำนานที่เจดีย์แดงหรือ Chureito Pagoda และที่ทะเลสาบ Kawaguchiko กันนะคะ
ใครยังไม่อ่าน !!เชยมาก!!
ชมวิวทะเลสาบ Kawaguchiko และตามหาร้านอร่อย คลิ๊กจร้า
บุฟเฟต์ขาปูยักษ์ ณ Tokyo Station Buffet คลิ๊กจร้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น