เที่ยวภูเก็ต 4 วัน 3 คืน : ออกเดินเที่ยวหาดป่าตอง

นักเขียนป้ายแดง by Jickamint 
ภาพทั้งหมดผู้เขียนถ่ายเอง ทั้งภาพและเนื้อหาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ กรุณาอย่านำไปแอบอ้างหรือใช้เพื่อประการใดๆโดยไม่ได้รับอนุญาต

เนื่องจากโรงแรมที่พักอยู่ตั้งอยู่ไม่ไกลทางลงชายหาด จึงรีบทาครีมกันแดดให้เรียบร้อยแล้วคว้าหมวกใบเก่งออกเดินจากโรงแรม ใช้เวลาไม่ถึง 3 นาทีก็ถึง "หาดป่าตอง" ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย


เหตุผลที่สามารถรับรู้ได้ว่า หาดป่าตองเป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติ เนื่องจากร้านรวงบริเวณหาดนั้นเต็มไปด้วยภาษาอังกฤษและรัสเซีย รองลงมาคือจีน มองไปทางไหนไม่เห็นลายสือไทยสักตัว สรุปประเทศไทยเราตกเป็นเมืองขึ้นต่างชาติไปแล้วใช่มั้ย???


แม้แต่เจ้าของร้าน พนักงานขายของ คนขับรถแท็กซี่ต่างทักทายผู้คนที่เดินไปมาด้วยภาษาอังกฤษ เราและครอบครัวถูกทักทั้งภาษาจีน อังกฤษ และภาษาอื่นๆที่ฟังไม่ออก พอพูดกลับไปว่าเป็นคนไทยค่ะ บางคนหัวเราะพูดไทยตอบกลับ แต่บางคนกลับงงค่ะ!!!!

เรื่องของเรื่องคือ เราแวะเชยชมเสื้อยืด ณ ร้านค้าแผงลอยหนึ่ง คนขายเดินมาทักเป็นภาษาอังกฤษรัวๆ เราจึงตอบกลับไปว่า ขอดูก่อนค่ะ ด้วยความหวังว่าคนขายคงเข้าใจแต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ สาวเจ้ายังยิงอังกฤษมาเต็มแม็กจนเราต้องตอบเป็นอังกฤษเสียงดังไปว่า "I'm Thai" ... ไม่สำเร็จค่ะ เพราะคนขายพูดไทยไม่ได้!!! เลยต้องเจรจากันเป็นภาษาต่างชาติแต่กลับสอยเสื้อมาแสนถูกในราคาคนไทย


เท่าที่สังเกตค่ะว่าร้านค้าส่วนใหญ่น่าจะมีเจ้าของและลงทุนโดยคนต่างชาติ อาจจะมีร้านค้าของชาวไทยบ้างแต่เห็นได้ชัดเลยค่ะว่าทุกร้าน!! เลือกที่จะจ้างชาวต่างชาติเป็นพนักงานขายคงเป็นเพราะทั้งค่าแรงถูกกว่าทั้งยังใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่าลูกจ้างคนไทยอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกที่เมื่อเวลาเดินเล่นที่หาดป่าตอง แม้อยู่ไทยแต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ต่างประเทศ


หาดป่าตองอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร ไกลจากสนามบิน 40 กิโลเมตร (จากสนามบินมาเดินทางไกลพอดู) และมีความยาวหาด 4 กิโลเมตรทั้งนี้ตลอดสี่ตารางกิโลเมตรนั้นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ 85% พนักงานต่างชาติ7% พนักงานไทย5% นักท่องเที่ยวไทย3% ตัวเลขนี้เราคาดเดาเอาเองจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะเจอแต่ชาวต่างชาติ แทบไม่ค่อยเห็นคนไทยในคราบนักท่องเที่ยวสักเท่าไร ... จะมีโอกาสได้ใช้และได้ยินภาษาไทยก็ต่อเมื่อสั่งอาหารร้านไทยๆ ซื้อของรถเข็นไทยๆและคุยกับพนักงานโรงแรม


หาดป่าตองถูกถล่มโดยคลื่นสึนามิจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ปัจจุบัน หาดป่าตองเป็นหนึ่งในหาดสำคัญที่ติดตั้งระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิ มีการซ้อมอพยพและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอค่ะ (wiki) ดังนั้นเรามักจะพบป้ายหน้าตาแบบนี้อยู่ทั่วไป


ระหว่างเดินหาดก็พยายามหาของกิน แน่นอนค่ะว่าร้านอาหารหรูๆมีอยู่มากมายแต่ด้วยความอยากสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นเลยพยายามเดินหาร้านรถเข็นอาหารไทย แต่ไม่เจอสักร้าน!!! สักพักแม่ค้าชาวไทย ก็ชวนคุยว่าถ้ามาเที่ยวหาดป่าตองสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ "แพนเค้ก" ด้วยความที่ไม่เคยมองข้ามของกินงานนี้ก็ต้องขอลองสักหน่อย


เมื่อเจอร้านถูกใจพุ่งชาร์ตเข้าไปแล้วเลือกสั่งเมนูสุดฮิตอย่าง "แพนเค้กมะม่วง" ไม่ทันไรแม่ค้าสาวสวยก็คว้าอุปกรณ์ขึ้นทำอย่างเร็วไว วิธีทำก็คล้ายๆเครปญี่ปุ่นเลยคิดในใจว่ารสชาติก็คงคล้ายเครปญี่ปุ่นนั้นแล แต่พอลองชิม แป้งหอมนุ่มกว่าแป้งเครปทั่วไปประกอบกับเป็นช่วงขาขึ้นของฤดูมะม่วงทำให้แพนเค้กมะม่วงจานนี้ อร่อยค่ะ!!! แถมราดด้วยน้ำผึ้ง ฟินอย่างบอกไม่ถูกด้วยราคาเนาะๆ 80 บาท


หาดป่าตองเป็นหาดที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรม พบปะสังสรรค์ ร้านค้าอาหารค่อนข้างแพง ค่าครองชีพสูงใช่เล่น หาดสวยสงบพอควรคือไม่หนาแน่นสกปรกเหมือนบางหาดและไม่ถึงขั้นสงบแบบหาดส่วนตัว แต่ดูจากภาพที่ถ่ายออกมาก็พอจะเห็นเลยใช่มั้ยคะว่า หาดป่าตองเป็นหาดที่ควรมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น